[Spirk Fic] once upon a dream (11)

Pairing : Prince!Spock /SleepyPrince!James T. Kirk

Type: AU Fanfiction

*แฟนฟิคนี้แต่งเพื่อความบังเทิงของเจ้าของบล็อกเท่านนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับภาพยนต์ บุคลจริง เหตุการณ์จริง สถานที่ใดๆทั้งสิ้น

***************************************************************

Chapter 11

” ล้อกันเล่นใช่ไหมคร้าบบบ ” ผมแหกปากใส่คนตรงหน้ารัวๆ เพราะไพค์บอกว่าต้องใช้หญิงสาวสองคนในการทำพิธี ซึ่งมาร์ลาก็คือหนึ่งในสอง แล้วคนที่สอง คือ ใครครับ ใครกันนน

ไพค์เดินเข้ามาทางผมกับคนอื่นๆนั่ง เขาวางหนังสือตรงหน้าผม   ” อ่านนิทานเรื่องนี้อีกรอบ….. ” ผมอ่านตามที่เขาสั่ง โดยอ่านไปเรื่อยๆ จนกระทั้ง…..เจอละ!

” คนที่สอง คือ สาวชาวบ้าน!  ที่ชื่อแบ็กกินส์… เดี๋ยวชื่อนี้มันคุ้นหูมากเลยนะ ” ข่านนั่งนึก ผมก็ยังคงนั่งกุมหัวคิด สักพักผมได้ยินเสียงคนเปิดประตูดังปัง! ผม สป็อค และข่านหันไปก็พบธอริน เดี๋ยวววววววๆ! นึกออกละ บิลโบ แบ็กกินส์ งั้นก็หมายความว่า ผมต้องเสียคนรู้จักไปสองคน!!

” ข้าจะไปฆ่าฮีวิลคิง! “

” แม่นางมาร์ลาต่างหากที่ถูกกำหนดให้สังหารอีวิลคิง นางเท่านั้น!! องค์ชายธอริน….. “

ผมได้ยินการโต้เถียงระหว่างไพค์กับธอริน ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเจ้าชายจอมยโสแห่งเอเรบอร์ เท่าที่ผมจับใจความได้ว่า  เหมือนธอรินจะไปฆ่าอีวิลคิงเอง แต่ไพค์โต้ตอบประมาณว่า มาร์ลาเป็นคนเดียวที่สังหารอีวิลคิงได้  ท่าทางเขาโมโหจัดมาก ผมจึงไปห้าม

” ธอริน เชื่อท่านพ่อมดเถอะ ” ข่านพูด ธอรินจ้องอีกคน ” แล้วทีเจ้าละ องค์ชายข่าน ท่านเองก็ปกป้องพรานสาว ไม่สิ…อดีตหัวหน้าองค์รักษ์คนโปรดของเจ้าไม่ได้ “

พลั้ก!

ข่านชกหน้าธอรินเต็มแรง ผมตกใจ เพราะท่าทางข่านคงโกธรจัด ธอรินสวนหมัดกลับทันที ผมกับสป็อครีบไปแยกทั้งสองคน ก่อนจะไ_ยไฟต์กัน  ” ใจเย็นกันหน่อย… “

ข่านกับธอรินจ้องหน้ากัน ราวจะกระโดดต่อยกันอีกรอบ สป็อคจึงกดจุดธอริน ซึ่งก็ได้ผล…เขาล้มแหมะไปกับพื้นทันที  ” สป็อคทำได้ไง ทำให้…เจ้าชายหมีควายนี้สงบได้ ” ซูลูถามขึ้น

” ผมเคยอ่านเจอ ถ้ากดจุดบริเวณที่ถูกต้อง จะทำให้คนสลบได้  ถ้าอยากให้เจ้าชายแห่งเอเรบอร์สงบสติ คงมีแต่วิธีนี้แหละ ” ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับสป็อค

” งั้นรอเขาสงบก่อนแล้วค่อยมาคุยกัน ” ไพร์คเอ่ยขึ้น พวกเราพยักหน้าให้กัน

************************

” ธอริน นายเอ่อ…สงบสติแล้วใช่ไหม? ” ผมถามกล้าๆกลัวๆ เพราะเคยได้ยินว่าธอริน เป็นเจ้าชายที่เคยผ่านสนามรบมาพอตัว เป็นคนเทรนมาร์ล่าให้ด้วย ก่อนที่เธอจะเป็นหัวหน้าองค์รักษ์  (ที่จริงกลัวเขาต่อยหน้าผมสลบต่างหากคร้าบบ) ธอรินพยักหน้าเบาๆ

” แล้วนายได้ความทรงจำคืนได้ไง…. ” ผมเริ่มถาม ธอรินหันมา ” แกนดัล์ฟ…. ” ห๊ะ!! ใครคือแกนดัล์ฟคร้าบบบ เคิร์กไม่รู้จัก ” แกนดัล์ฟเป็นพ่อมดที่เก่งที่สุด อาจเก่งกว่าข้า ” ผมหันไปก็เจอไพค์  ” ว่าไงท่านธอริน ท่านสงบติหรือยัง? เราจะได้มาคุยกันแบบ…ผู้ดีเขาทำกัน ”  ธอรินทำท่าจะพูด แต่พอเห็นสายตาขู่ของไพค์ เขาถึงกับนั่งเงียบ

” เอาละนะ ข้ามีแผนที่จะช่วยสองคนนั้น แต่…ต้องให้ธอรินกับข่านทำเท่านั้น ” ธอรินกับข่าโพล่งมาพร้อมกัน ” ว่าไงนะ!!? “

” ข้าพูดไม่ผิดหรอก ข่านกับธอริน ต้องเข้าไปในเขตอีวิลคิงด้วยทั้งสองคนเอง ” ท่าจะยากครับพ่อมด ผมดูออกเลย

TBC

***************************

– ตอนนี้แต่งสั้นมากขออภัย

– ไรท์ขอไปผจญภัย หามุขไปแต่งนิยายเพิ่มก่อน #โดนเตะ

[Spirk Fic]Once Upon A Dream (10)

Pairing : Prince!Spock /SleepyPrince!James T. Kirk

Type: AU Fanfiction

*แฟนฟิคนี้แต่งเพื่อความบังเทิงของเจ้าของบล็อกเท่านนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับภาพยนต์ บุคลจริง เหตุการณ์จริง สถานที่ใดๆทั้งสิ้น

***************************************************************

Chapter 10

” จิมครับ คุณต้องพยายามมากกว่านี้ ”

 

” ไม่ไหว….มัน…..  ”

 

” อดทนหน่อย ”

 

” ไม่ไหว….มันยากไป  ”

 

” แค่อ่านวิธีล้างคำสาปเองนะ ไม่ได้ไปรบสักหน่อย ”

 

 

ผมโอดครวญกับหนังสือตรงหน้าภาษาอะไรกันผมมึน แถมต้องหาของมาประกอบพิธีเอย่างลือดมังกร ของใช้ หรือเส้นผมของคนที่จะทำพิธี บาๆๆ ผมจะกระอักเลือดตายคาหนังสือแล้วครับบบบ

 

 

” เพราะงี้คะแนนสอบถึงตกใช่มั้ยละ คุณเจมส์ ”

 

 

” เปล่าซะหน่อย ฉันแค่….ไม่อยากเด่นเท่านั้นว๊อย ข่าน ”

 

 

ผมแถไปงั้นแหละ เอาจริงผมเกลียดการสอบสุดๆ ขนาดมาร์ลามาติวจนผมบรรลุยังสอบไม่ได้เลย ฮือ….เจมส์ ที. เคิร์ก ผู้สอบได้คะแนนต่ำสุดของคลาส ผมฟุบไปกับโต๊ะ

 

 

 

” สป็อค เขาพิธีต้องทำในคืนที่พระจันทร์จะเต็มดวง แต่ถ้าให้ได้ผลจริงๆต้อง…..ใช้เลือดของคนที่สาปด้วย ซึ่งคือเราต้องไปกรีดเลือดจากอีวิลคิง ” ข่านพูด พลางถือหนังสือเล่ม

 

 

 

 

” มันยากกว่าไปสอบชิงทุนของมหาลัยอ็อกฟอร์ดอีกนะ ข่าน แค่นายเข้าใกล้ก็เจอทหารทมิฬกระทืบแล้ว ”

 

 

 

” คราวนี้ฉันกรีดได้แน่ ป็อค ”

 

 

 

 

” ฉันชื่อสป็อค ไม่ใช่ป็อค ข่าน ”

 

 

 

 

” โว้ยยยย พวกนายสองคนทะเลาะกันเป็นเด็กไปได้ ”

 

 

 

 

ผมแหกปาก เพราะเริ่มรำคาญ สามัคคีหน่อยสิครับบบบบ เคิร์กขอร้องงงง สักพักผมได้ยินเสียงวิ่งตึกตักมา ปรากฎว่าเป็นเซคอฟ

 

 

 

 

” ท่านพ่อมดอยู่ไหนครับ ”

 

 

 

” ห้องสมาธินะ เซ มีอะไรเปล่า ”

 

 

 

” ผมไปสอดส่อง…..แถวปราสาทมาครับ และ….. ”

 

 

 

” และ….? ”

 

 

 

” เจอนี่มาครับ…. ”

 

 

 

 

เด็กหนุ่มตรงหน้าผมยื่นภาพที่เขาถ่ายจากมือถือ เป็นภาพมาร์ลาโดนผูกกับเสาไม้ราวกับจะโดนบูชายัญ ผมผงะ ยัยเตี้ยยยยของจิม จะโดนจับบูชายัญเรอะ!! ข่านชะโงกหน้ามาดุรูปถึงกับหน้าซีดเผือก

 

” มาร์ลา…. ”

 

ผมถึงกับชะงัก ถ้าผมไม่รีบหาวิธีแก้คำสาป มาร์ลาก็จะถูกพรากไปจากข่านไปตลอดกาล ผมเลยหันไปทางกองหนังสือและเริ่มตั้งใจหาวิธีอย่างตั้งใจ จนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง ผมเริ่มง่วงแต่ก็ยังไม่หยุด

 

Spock P.O.V

 

ผมได้แต่มองจิมเงียบ เขาดูมุ่งมั่นมากในการที่จะหาวิธีแก้คำสาปมาหลายชั่วโมงแล้ว

 

 

” จิมพักก่อนสิ… นายไม่ได้พักมาหลายชั่วโมงแล้วนะ ”

 

 

 

” ผมยังไมเหนื่อยนะ สป็อค… คร่อกก”

 

 

นั้นไง ไม่ทันขาดคำจิมก็หลับคาโต๊ะ ผมหัวเราะเบาๆพลางแบกอีกคนไปที่โซฟาแล้วเอาผ้ามาห่ม

 

 

 

” ฝันดีนะครับ เจ้าชายนิทราของผม ”

 

 

 

ผมจูบหน้าผากอีกคนเบาๆแล้วเดินออกไป แล้วผมเจอข่านนนั่งสัปหงกกับกองหนังสือตรงหน้า

 

 

” เฮ้ย แกยังไม่หลับอีกหรอวะ ”

 

 

 

” ยังไม่ง่วงนะ…. ฉันอ่านเรื่องฉันอยู่ ”

 

 

 

 

” นิทานเรื่อง เจ้าชายหิมะกับพรานสาว ? ”

 

 

 

” ใช่ไง…. ตอนจบของนิทานเรื่องนี้ จะเป็นอย่างไร ”

 

 

ผมเดินไปดึงหนังสือจากคนตรงหน้า แล้วเก็บตรงชั้นวางหนังสือ

 

 

 

” ตอนจบจะเป็นยังไง นายไม่มีทางรู้หรอกนะ แต่…ถ้านายกับเธอคู่กันจริงๆ ก็ต้องได้คู่กันอยู่ดีแหละ ”

 

 

 

” หรือถ้ามันจบแบบโรมิโอและจูเลียตละ ”

 

 

 

 

” ข่าน นายมันคิดมากตัวพ่อ!! ฉันละไมเกรนแทบขึ้นเวลาอยู่กับนาย ”  ข่านยิ้มและหัวเราะ พลางตบบ่าอีกคน

 

 

 

” นายต่างหากที่คิดมากจนไมเกรนขึ้น ไปนอนละเกลอ ”

 

 

 

ผมแทบไล่เตะเพื่อนคนนี้ทันที ชอบกวนประสาทผมหนัก เขามีลักษณะของเจ้าชายตรงไหนกัน!?

 

 

 

TBC.

 

 

****************************************************

 

ไรท์มาอัพแล้ว เอื้อออะ

 

 

 

 

[Spirk Fic] Once Upon A Dream (9)

Pairing : Prince!Spock /SleepyPrince!James T. Kirk

Type: AU Fanfiction

*แฟนฟิคนี้แต่งเพื่อความบังเทิงของเจ้าของบล็อกเท่านนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับภาพยนต์ บุคลจริง เหตุการณ์จริง สถานที่ใดๆทั้งสิ้น

***************************************************************
Chapter 9

ผมนั่งเงียบตรงม้านั่งในร้านกาแฟโดยในมือลาเต้อยู่ สป็อคมองผมเงียบๆแล้วพูดขึ้น

” จิม….คุณจิบมันจนไม่มีให้จิบต่อแล้วน่ะ “

ผมมองแก้วที่ตอนนี้เหลือแค่คราบกาแฟและฟองนมอยู่ตรงก้นแก้ว สลับกับอีกคนแล้วถอนหายใจ สถานการณ์ตอนนี้มันแย่มาก เพื่อนสนิทผมถูกจับตัวไปตอนนี้จะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้ จะโดนจับไปทรมานหรือเปล่า ผมเป็นห่วงเธอมากในตอนนี้ สป็อคเหมือนรู้ใจผมเลยพูดบางอย่าง

” ผมว่ามาร์ลาต้องไม่เป็นอะไรไปง่ายหรอกครับ เธออึดตายยากจะตายไป “

ผมมองสป็อคเงียบๆพลางถอนหายใจ จริงอย่างสป็อคว่ามาร์ลาอึดตายยากแต่อีวิลคิงเก่งกว่าน่ะ เขามีทั้งเวทย์มนต์ เงามัจจุราช กองทัพทมิฬ ถึงเธอจะแกร่งกว่าก็ตามทีเถอะ สป็อคเลื่อนมือเขามากุมมือผม ผมมองหน้าเขา

” จิม…ผมว่า “

‘ มีคนไข้หนีออกจากโรงพยาบาล ชื่อ จอห์น แฮริสัน เป็นผู้ชายสูง 180กว่าๆ ผมดำเหยียดตรง ผิวขาว ตาสีฟ้าแกมเขียว ผู้ใดพบเห็นโปรดแจ้งให้ทราบ ‘

เสียงจากประกาศจากโรงพยาบาลดังขึ้น อ้าวเฮ้ย!!ข่านหนีออกจากโรงพยาบาลแล้วเรอะ ทำไมผมไม่รู้(ก็ผมไปนั่งจิบกาแฟ) ผมเลยลากสป็อคออกไปหาข่าน เราทั้งสองวิ่งไปตามฟุตบาต หวังว่าคงไปไม่ไหนได้ไม่ไกล เราเห็นข่านหายไปในฝูงชน ให้ตายเขาเป็นนักกรีฑาหรือไง วิ่งไปเร็วมากเลย ผมยืนกุมเข่าตนเอง สป็อคยืนหอบข้างผมแล้วพูดขึ้น

” เพิ่งนึกได้…ข่านโดนวางตัวให้เป็นนักวิ่งของมหาลัยหนิ “

แล้วทำไมไม่บอกผมแต่แรกคร้าบบบบบสป็อค ถ้าบอกเร็วกว่านี้ผมจะได้โบกรถแล้วตามข่านเร็วกว่านี้อีกกกก

” โทษทีครับจิม ผมพึ่งนึกได้ “

เราตัดสินใจเดินกลับบ้านกัน ขอไปนั่งนึกก่อนว่าข่านจะทำอะไร ที่ไหน อย่างไร แต่เมื่อกลับไปก็พบมีคนนั่งรอเราอยู่แล้ว เอิ่มคุณซูลู คุณอูฮูร่า เซคอฟ และพ่อมดไพรืค!! ผมกับสป็อคกลืนน้ำลายลงคอโดยมิได้นัดหมาย รู้เลยว่ามาเรื่องไร ผมสัมผัสได้ งืออ

” องค์ชายข่านไปไหน…? “

นั้นไงครับ โดนยิงด้วยประเด็นนี้เลยครับ ผมไม่รู้น่ะ ไม่รู้เรื่อง ผมตอบสวนไป ก่อนที่จะโดนสาปให้เป็นตัวอะไรก่อนดีกว่า

” ผมกับสป็อคไปนั่งจิบกาแฟข้างล่างโรงพยาบาลครับเลยคาดไม่ถึงว่าเขาจะหนีออกไปอ่าครับ “

ไพร์คกุมขมับพลางลุกไปจากโซฟาที่ตนเองนั่งแล้วเดินวน เขาหันมาทางผมแล้วกำลังพูด แต่แล้วต้องตกใจเมื่อเห็นสก็อตตี้แบกร่างบางคนเข้ามา เราถึงกับผงะ เขาแบกข่านมาที่โซฟา

” ฉันไปเจอเขาที่แถวๆปราสาทเก่าของอีวิลคิงเหมือนเขาพยายามช่วยมาร์ลาน่ะ แต่เจอทหารทมิฬไป…. “

ผมกับสป็อคมองข่านที่นอนให้อูฮูร่ารักษาตัวอยู่ เขาเต็มไปด้วยบาดแผล ไปให้เขากระทืบเล่นทำไม?(ผิด)

_________________________________________________________________________

มาร์ลานอนบนเตียงไม้และสะอื้นในลำคอ เธอนึกถึงข่านเขาเกือบช่วยเธอได้แล้วแต่เขาโดนทหารทมิฬทำร้ายปางตาย มันเป็นภาพที่ติดตาเธอมากสุดในตอนนี้ ร่างบางพยายามข่มตาหลับ สักพักเธอก็ได้ยินเสียงเปิดประตูกรงขังดังขึ้น ร่างบางเหงยน่ามอง เธอพบแคโรลยืนอยู่ตรงหน้า

” ฉันรู้ว่าเธอไม่อยากพูดกับฉันเพราะฉันคือลูกของอีวิลคิง แตาฉันไม่ได้ร้ายเหมือนพ่อฉันน่ะ มาร์ “

มาร์ลามองหน้าแคโรล เธอไม่อยากเห็นคนตรงหน้าด้วยซ้ำ แต่อย่างน้อยคนตรงหน้ายังนิสัยดีกว่าอีวิลคิงแล้วกัน แคโรลเห็นว่าคนตรงหน้าสงบลงแล้วจึงพูด

” องค์ชายหิมะของเธอยังไม่ตาย… มีคนมาช่วยไว้ทัน “

หญิงสาวที่นอนบนเตียยงไม้ลุกพรวด เธอไม่อยากจะเชื่อด้วยซ้ำ ร่างบางถามอีกที

” จะ…จริงหรอ!? “

” แคโรล ลูกมาทำอะไรที่ห้องขัง “

ทั้งสองหันไปก็พบอีวิลคิงยืนอยู่ตรงหน้า เขาดูโมโหมากหลังจากที่ได้ยินลูกสาวเขาพูดว่าข่านยังไม่ตาย ชายสูงวัยเดินปรี่ไปยังร่างบางที่นอนอยู่บนเตียง เขาจิกหัวเต็มแรงและตบหน้าอีกคนแรงๆ ตอนนี้มาร์ลามีเลือดตรงมุมปาก

” หลังจากที่ข้าได้เลือดเจ้าแล้วนังพราน ข้าจะกรีดเลือดข่าน จะทำให้เขาทรมานจนอ้อนขอความตายจากข้า “

” คิดว่าทำได้หรอ ไอ้สารเลว! “

อีวิลคิงเหวี่ยงอีกคนลงพื้นแล้วเตะเข้าที่ท้องอย่างแรง มาร์ลากัดปากข่มความเจ็บปวดไว้ แคโรลเข้ามาห้าม

” พ่อ อย่าเดี๋ยวเธอตาย “

” จริงสิ ข้าต้องใช้เลือดเธออยู่ ฝากดูนางล่ะ อย่าให้ตาย “

อีวิลคิงเดินออกจากห้องขัง แคโรลรีบมาดูร่างที่นอนกองกับพื้น เธอกรอกยาบางใส่ปากร่างบาง มาร์ลารู้สึกความเจ็บปวดที่หายไปอย่างรวดเร็ว

” นอนพักซักสองสามชั่วโมง ร่างกายเธอก็จะเหมือนเดิม ขอโทษแทนพ่อฉันด้วยมาร์ “

” มะ…ไม่เป็นไร… “

” …แต่… “

” ขอฉันพักผ่อน….. “

เธอลุกจากพื้นเพื่อไปนอน แต่แคโรลเรียกเธอไว้ มาร์ลาจึง

” เดี๋ยว..! เธอรักองค์ชายข่านใช่ไหม “

” ใช่… “

แคโรลยิ้มบางแล้วเดินออกจากห้องขัง โดยทิ้งให้มาร์ลางงกับคำถาม

” ฉันจะบอกว่าในคืนบรรจบเจ้าชายหิมะของเธอจะมาช่วยแน่ ฉันรับรอง “

TBC.

********************************************************

ไรท์ขอโทษ  ช่วงนี้หัวมันตันง่ะ พยายามต่อแล้ว  orz

แล้วก็เจออีกทีเมื่อมีคนต้องการ #ฮา

[Spirk Fic] Once Upon A Dream (8)

Pairing : Prince!Spock /SleepyPrince!James T. Kirk

Type: AU Fanfiction

*แฟนฟิคนี้แต่งเพื่อความบังเทิงของเจ้าของบล็อกเท่านนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับภาพยนต์ บุคลจริง เหตุการณ์จริง สถานที่ใดๆทั้งสิ้น

***************************************************************
Chapter 8

” แอปเปิ้ลอาบยาพิษ มีคนเดียวที่ทำแบบนี้ได้… ” มาร์ลาพูดกับผม ผมมองผลไม้สีแดงเข้มดุจเลือด ราวกับมันบอกผมว่า เอ็งกิน เอ็งหลับยาวแน่ อิๆๆ เคิร์กกลัวอ่าาา

” ใครล่ะ? ” สป็อคถามเธอ มาร์ลาหันมาแล้วพูด

” อีวิลคิง….. ” ผมนึกออกล่ะ อีวิลคิงเคยให้ข่านกินแอปเปิ้ลอาบยาพิษนิ จากนั้นมาร์ลาเริ่มบ่น

” แก่จนจะลงโลงอยู่แล้ว! ยังจะอาฆาตพวกเราอีก! ถ้าเจอเขาจะเอาขวานจามหน้ารัวๆๆเลย อีวิลคิงบ้า! ” ใจเย็นหน่อยแม่นาง ผมกลัว~

” มันมีวิธีแก้… ” ผมหันไป ก็เจอคุณพ่อมดนั่งชิวตรงโซฟา ยังชิวได้อีกน่ะ

” ข้าได้ข่าวล่ะ อีวิลคิงนี่ก็น่ะ กัดไม่ปล่อยจริงๆ ” พวกเรามอง

” ทำไมอีวิลคิงต้อง….ฆ่าข่านล่ะ ” ไพร์คมองหน้าสป็อคแล้วตอบ

” ข่านคือรัชทายาทตัวจริงที่จะได้ปกครองอาณาจักรสตาร์ฟลีทไงล่ะ ถ้าไม่มีข่าน…. ” มาร์ลาพูดขึ้น

” ก็เท่ากับว่ากำจัดเสี้ยนนามของตนเอง… แถมแคโรลก็มีสิทธิ์ครองบังลังค์ต่อจากมาร์คัสด้วย เลวล้ำลึกจริงๆ อยากเอาขวานจามหน้าแล้ววุ้ย!! ” แรงครับ คาดว่านางขึ้นแล้วครับ เคิร์กจะไม่ยุ่ง ผมถามไพร์ค

” แล้ววิธีแก้คืออะไรครับ ” ไพร์คชี้ที่ยัยเตี้ย ผมงง เขาพูดขึ้น

” เธอต้องจูบเขา ” หมายถึงจุมพิตรักแท้ใช่ป่ะครับ…. มาร์ลายืนหน้าซีดเลยครับ

” ฉะ…ฉันต้องจูบเขาอีกหรอ….? ” เธอเดินไปที่เตียงที่ข่านนอนอยู่ แล้วมองร่างที่นอน เธอหันมา

” ฉันจะทำก็ได้….แต่ต้องออกจากห้องนี้ให้หมด! ” ทันทีที่เธอเน้นคำสุดท้าย ผมแทบเผ่นออกจากห้องไม่ทันเลย ง่าาา

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

ผ่านไปหลายชั่วโมง ผมก็สงสัยว่าทำไมไม่มีอะไร ผมเลยเข้าไปในห้องก็พบว่าข่านนั่งกุมแขนอยู่ แล้วมาร์ลาล่ะ? ผมหันไปรอบๆห้องก็พบว่า….เธอได้หายตัวไปแล้ว

” เธอโดนเงามัจจุราชจับตัวไปแล้ว…. ” ผมตกอยู่ในความตกใจ อีวิลคิงได้ตัวเธอไปแล้ว

_____________________________________________________________

หญิงสาวค่อยๆปรือตาขึ้น เธอจำได้แค่ว่า เธอจูบข่านแล้วก็พอเขาฟื้นมา เธอไม่ทันพูดอะไร ก็โดนเงามัจจุราชคว้าคอเธอไว้ แถมมันยังทำร้ายข่านอีก จากนั้นเธอก็รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนนี้แหละ เธออยู่ในห้องขังที่มีแต่เตียงกับหน้าต่างที่ติดลูกกรงเล็กๆ เธอชะเง้อมองไปนอกหน้าต่าง

” เฮ้!ช่วยฉันด้วย ฉันโดนลักพาตัว ” ร่างบางตะโกนไป แต่ไม่มีใครสน

” แหม่ๆท่าทางอดีตพรานสาวอยากออกไปข้างนอกใจจะขาด… ” เธอหันมาก็พบชายสูงวัยแต่งกายอย่างดี ถือไม้เท้าสีดำ เธอจำได้ว่าคนตรงหน้าคือใคร

” อีวีลคิง… “เธอเกือบไปบีบคอเขาแล้ว ถ้าไม่มีลูกกรงที่ขวางเธอกับเขาอยู่ ชายสูงวัยหัวเราะ

” คิดเหรอว่าจะจัดการกับข้าได้ นังพรานทรยศ ” เธอกัดปากตนเอง แล้วพูด

” ท่านต่างหากที่ทรยศ ท่านทรยศต่อพระราชา พระราชินี รวมทั้งองค์ชายด้วย…. ท่านฆ่าพวกเขาต่อหน้าองค์ชายหรือไม่จริง? ” เธอยิ้มเยาะคนตรงหน้า อีวีลคิงแทบอยากจะฆ่าคนตรงหน้าทิ้ง แต่เขาต้องใช้เลือดเธอก่อน เขาจึงพูดขึ้นมา

” งั้น….ข้าจะฆ่าองค์ชายข่านต่อหน้าเจ้า ข้าจะทำให้เขาทนทุกข์ทรมานต่อหน้าเจ้า และเจ้าตายตามเขาเป็นรายต่อไป…. ” เธอเบิกตาโผล่งและตะโกนด่าอีกฝ่าย

” แก!! ไอ้ปิศาจ!! ” อีวิลคิงหัวเราะอย่างชั่วร้าย เขาทิ้งให้เธอกรีดร้องต่อไป หญิงสาวทรุดลงไปกับพื้น น้ำอุ่นไหลอาบใบหน้า พลางเหงยหน้ามองไปนอกหน้าต่าง

” พระเจ้า โปรดช่วยคุ้มครองข่านด้วย… ลูกรักเขา รักเกินกว่าที่จะเสียเขาไปอีกครั้ง ” เธอร้องไห้เงียยๆ

__________________________
“มันเล่นทีเผลอเลย อีวิลคิง!! ” ผมโมโหมากตอนนี้ ฮรึ่มๆอย่าให้เจอน่ะ พ่อจะเอามีดกระซวกไส้เลย!(ผมเริ่มติดนิสัยยัยเตี้ยแล้วสิน่ะ) สป็อคปราม

” ใจเย็นสิจิม… ” ผมมองข่าน

” ทำไมนายไม่ไปช่วยเธอ!?! ” ข่านมองหน้าผม

” สรุปผมผิดใช่ไหม!! เกิดอะไรก็โทษผมอย่างเดียว ” ตายล่ะ ผมทำให้ข่านรู้สึกไม่ดี ผมเริ่มรู้สึกผิด

” ขอโทษ…. ” ไพร์คมองมาทางผมแล้วพูดขึ้น

” ข้าว่าท่านออกไปก่อนเถอะ ปล่อยให้องค์ชายข่านสงบสติก่อน…. “ผมกับสป็อคเดินออกไป ผมรู้สึกแย่มากที่ตวาดใส่ข่าน ผมนึกขึ้นได้ว่าตอนเด็กๆเขาเป็นคนที่ไม่มีใครเชื่อเลยว่าเขาคือรัชทายาทคนต่อไปของอาณาจักร เพราะเขาดูอ่อนแอ (จริงๆเขาเป็นคนแกร่งต่างหาก ไอ้ขุนนางขี้จุ๊!) แถมยังคิดอีกว่าที่เขาได้ตำแหน่งนี้ เพราะตระกูลของมาร์ลาที่เป็นขุนนางเก่าช่วยสนับสนุนต่างหาก ผมอดสงสารเขาไม่ได้เลย แต่ยังดีที่มีมาร์ลาคอยโต้ตอบพวกที่คอยกลั่นแกล้งเขา เธอเป็นคนเก่งเลยแหละ พ่อแม่ผมชื่นชมในตัวพ่อแม่ของมาร์ลามาก แต่ทว่า…คืนที่พระราชากับพระราชินีของอาณาจักรสตาร์ฟลีท(ซึ่งก็คือพ่อแม่ของข่าน)โดนสังหารต่อหน้าข่านโดยอเล็กซ์ซานเดอร์ มาร์คัส ที่ปรึกษาผู้มากด้วยอำนาจและเวทย์มนต์ เขาได้สั่งประหารพ่อแม่ของมาร์ลาผู้ซึ่งยังจงรักภักดีต่อพระราชาองค์ก่อนอยู่ ทำให้มาร์ลาต้องมาอยู่ในการอุปการะของมาร์คัส นั้นเป็นสาเหตุมที่ผมกับมาร์ลา และข่านไม่ได้มาเล่นด้วยกันอีก….

TBC

____________________
– กราบเท้าคนอ่านที่รัก ขออภัยที่อัพช้า
– ตอนนี้จิมเริ่มกล่าวถึงอดีตที่มืดมนของมาร์ลา หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัย ณ ที่นี้ด้วย

[Spirk Fic] Once Upon A Dream (7)

Pairing : Prince!Spock /SleepyPrince!James T. Kirk

Type: AU Fanfiction

*แฟนฟิคนี้แต่งเพื่อความบังเทิงของเจ้าของบล็อกเท่านนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับภาพยนต์ บุคลจริง เหตุการณ์จริง สถานที่ใดๆทั้งสิ้น

***************************************************************
Chapter 7

เย็นวันเสาร์มาเยือนแล้วคร้าบบบบบ งานวันเกิดแคโรลแล้ว ผมยืนอยู่หน้ากระจก

” ไอ้ขี้เก็ก! แต่งตัวเสร็จหรือยัง ” ผมหันไปมองมาร์ลา ตอนนี้เธออยู่ในชุดม็อกกิ้งเจย์สีดำ แต่งหน้าโทนสีดำและรวบผมแบบมวยข้าง สวมส้นสูงสีดำ ให้ตายสิครับ นี่มันแคนิส(ติดแค่ว่ายัยเตี้ยนี้ผมน้ำตาลแดง ถ้าผมดำนี่ใช่เลย)

” เสร็จแล้ว เตี้ย ” ผมเดินกล่องของขวัญบนโต๊ะข้างเตียง แล้วเดินตามอีกคนลงข้างล่าง  ผมกับมาร์ลาเดินไปตามทางจนถึงคฤหาสน์ของแคโรล  ตรงกำแพงข้างประตูรั้ว มีตัวอักษรว่า

  ‘ Marcus ‘

มันใช่เลย คฤหาสน์ของแคโรล แต่ทำไมมันดูทะมึนๆจังเลยอ่า  ผมกับมาร์ลาได้เดินเข้าไปในคฤหาสน์ เราก็พบคนอื่นๆมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สป็อคแต่งเป็นอะไรไม่รู้จักอ่า  ข่านแต่งเป็น….เชอร์ล็อค(แบบดั้งเดิม)! แต่ตอนนี้ผมไปหาอะไรทานก่อนน่ะ หิวแล้ว  ผมไปที่โต๊ะบุฟเฟ่ห์ ตรงโต๊ะอาหารหลายอย่าง รวมทั้งม็อกเทลด้วย สักพักผมได้ยินเสียงคนแก่พูด

” สวัสดี คุณเคิร์ก ” ผมหันไปทั้งๆที่อาหารเต็มปาก จ๊ากกก ท่านผอ.มาร์คัส ผมรีบกลืนอาหารลงท้องทันที

” สวัสดีครับ ผอ. ” เขายิ้มเย็นมาให้ผม ผมกลัว

” ขอให้สนุกกันน่ะ หึๆ ” แหม่ หัวเราะแบบพระราชาใจร้ายอีกน่ะครับ แต่มันคุ้นมากเสียงหัวเราะแบบนั้นน่ะ บรื๊อ~~

” จิม!! บลูฮาวายฉันได้ยัง… ” ผมหันไปก็พบมาร์ลายืนกอดอกอยู่ ตายล่ะ ยัยเตี้ยโมโหิวแล้ว ผมหยิบบลูฮาวายและจานที่ใส่คานาเปให้เธอไป  ผมจิบม็อกเทลแบล็คเบอร์รี่ พลางกินอาหารที่อยู่ในจาน ผมมองมาร์ลาที่ยืนคุยอยู่กับข่านที่คุยกันอย่างสนิทสนม ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้ม ยังน้อยยังดีกว่าเวลาอื่นที่ทำหน้าบูดบึ้ง ผมยิ้มบางๆให้ตนเอง  สักพักผมรู้สึกได้ว่าคนมายืนอยู่ข้างๆผม ผมหันไปก็เจอกับสป็อค

” ไปหาที่เงียบๆคุยกัยมั้ย  ” เขาชวน ผมพยักหน้าให้เขา เขาพาผมไปที่สวนหลังหลังคฤหาสน์ของแคโรล อืม แต่งได้หรูมาก(สวนน่ะ)

” เจมส์  เจ้าโกธรข้าหรือ? ” ผมหันมองคนข้างแล้วถอนหายใจออกมา

” เปล่าหรอก สป็อค อีกอย่างใช้ศัพท์ปกติกับผมก็ได้น่ะ ผมไม่ใช่เจ้าชายเจมส์ ไทบีเรียส เคิร์กคนเดิมแล้ว ผมเป็นแค่มิสเตอร์เตอร์เจมส์ ที. เคิร์ก นักศึกษาคณะวรรณกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเอนเตอร์ไพร์ซ ” ผมก้มหน้าลง ผมรุ้สึกถึงน้ำอุ่นๆที่ไหลอาบใบหน้าผมได้ ผมหันหลังให้อีกคน ผมไม่ต้องการให้อีกคนเห็นน้ำตาจากคนอ่อนแอ สักพักผมรู้สึกถึงมือหนามาปาดน้ำตาตรงใบหน้าของผม สป็อคดึงผมไปกอดเบาๆ

” แต่ยังไงคุณคือเจมส์  เจ้าชายนิทราของผมอยู่วันยังค่ำน่ะ รู้มั้ย ” เขากุมมือผมไว้ ผมยิ้มให้คนตรงหน้าทั้งน้ำตา สป็อคยิ้ม

” ดูสิ….มีอีกคู่ที่สวีทกัน…..” ผมหันไปก็พบข่านกับมาร์ลานั่งคุยตรงม้านั่ง โอ้ ท่าทางพรานสาวจะอ่อนโยนกับเจ้าชายผิวซีดน่ะ ทีผมล่ะทั้งตวาด ตะคอก ชิ!งอน

” ฉันรู้ว่าพวกนายแอบมองน่ะ ” มาร์ลาพูดขึ้น ผมกับสป็อคสะดุ้ง แหม่….หูไว ตาไวจังครับ เราทั้งสี่หัวเราะกัน สักพักไพร์คเดินมาทางพวกผม มาร์ลาถามขึ้น

” ท่านมาได้ไงค่ะ? ” ไพร์คเงียบ เอ่อ งั้นเราจะเข้าประเด็นเลยครับ

” องค์ชายข่าน ท่านกำลังมีภัยจากอีวิลคิง ข้ามาเตือนท่านแค่นี้แหละ

.

.

.

.

.

.

.

.

เมื่อผมกับมาร์ลากลับมาถึงบ้านก็ปาไปห้าทุ่มกว่าแล้ว ผมเลยตัดสินใจนอนเลยดีกว่า(ขี้เกียจอาบน้ำครับ) สักพักมาร์ลาวิ่งลงมา

” ข่านเข้าโรงพยาบาล!! ” ผมโดนยัยเตี้ยลากไปโรงพยาบาล และแล้วเรามาอยู่ที่ห้องไอซียู  สป็อควิ่งมาหาเรา

” เขายังไม่ฟื้นเลย ” มาร์ลาถามอีกคน

” เขากินอะไรเข้าไป!? ” สป็อคมองผมกับมาร์ลาสลับกัน แล้วยื่นของบางอย่าง มันเป็นแอปเปิ้ลสีแดงสดราวกับเลือด มันมีรอยกัดหน่อยหนึ่่ง

” แอปเปิ้ลอาบยาพิษ….. ” เธอพูดออกมาอย่างแผ่วเบา

 

TBC.

 

 

[Spirk Fic] Once Upon A Dream (6)

Pairing : Prince!Spock /SleepyPrince!James T. Kirk

Type: AU Fanfiction

*แฟนฟิคนี้แต่งเพื่อความบังเทิงของเจ้าของบล็อกเท่านนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับภาพยนต์ บุคลจริง เหตุการณ์จริง สถานที่ใดๆทั้งสิ้น

***************************************************************

Chapter 6

ผมกับสป็อคนั่งเงียบๆ ตั้งแต่เราได้ความทรงจำกลับมา เขาเงียบ ผมก็เงียบ จนกระทั้งผมเห็นมาร์ลากับจอห์น เอ้ย! ข่านต่างหาก  ทั้งคู่นั้งตรงข้ามกับเราแล้วเริ่มเงียบอีกครั้ง สก็อตตี้พูดขึ้น

” โว้ยยยยย!พูดกันเถอะพวกท่าน เห็นเงียบมานานแล้ว ” ซูลูเดินมาหามาร์ลา

” ข้าขอทดสอบเจ้าอย่างหนึ่ง…. ” เธอมองเขา ” เซคอฟ เจ้าไปหยิบห่อผ้านั้นสิ ” สักพักเขาก็กลับมาพร้อมห่อผ้า แล้วมาร์ลากรับห่อผ้ามา เธอเปิดห่อผ้าขึ้นเราก็พบดาบเงิน  ซูลูพูดขึ้น

” ข้าประลองฟันดาบกับเจ้าได้ไหม ”  ผมอึ้งทันที จะบ้าเรอะคร้าบบบบบบบ  แต่แล้วเขาเอาดาบมาฟาดที่เธอ แต่เธอเอาดาบมาตั้งรับได้ทัน เธอตวัดดาบได้อย่างคล่องแคล่ว ท่าทางของเธอพริ้วไหว หลบคมดาบของอีกคนได้หมด ผลก็คือมาร์ลาวิน ซูลูนอนแอ้งแม้ง สก็อตตี้ขำกลิ้ง

” ซูลูแพ้ผู้หญิงกิ้วๆ ” พวกเราได้แต่ขำอีกคนกัน อย่างน้อยก็มีเรื่่องให้พวกเราแก้เครียดไปพลางๆน่ะ ไพร์คเดินมาหาเรา

” ดูท่าว่ามาร์ลาต้องไปนอนบ้านใครแล้วล่ะ ” ผมกำลังยกมือขึ้น แต่ข่านชิงยกมือก่อน มาร์ลามองอีกคนอย่างเลิกลั่ก

” แน่ใจ!ฉันนอนกรนน่ะ ” โกหก เธอไม่เคยกรนเลย

” แต่ฉันไม่มีเสื้อเปลี่ยนน่ะ ” ได้ข่าวว่าเธอใส่เสื้อผู้ชายได้นิ(แบบเคยเห็นเมื่่อนานมาแล้ว)

”  ไม่เป็นไร ผมมีเสื้อให้เปลี่ยนและ….เธอไม่เคยนอนกรนนิ ” เอาแล้วยัยเตี้ย คืนนี้ได้นอนบ้านเขาแน่

” จิน เอ้ย!เจมส์  ข้านอนบ้านท่านมิได้รึ ” ผมพูด ” มาร์ ใช้คำธรรมดาก็ได้ ” ยัยเตี้ยยิ้มโฉด แล้วพูด

” ไอ้_ิ่ม!!! เราเป็นเพื่อนกันมานานแล้วน่ะ บ้านแกมีสองห้องไม่ใช่เรอะ!! ” นั้นไงรัวเป็นปืนกลเลย สมแล้วที่เป็นพรานสาว ทั้งถึก อึด หยาบคาย ผมมองไปที่คนตรงหน้าและตอบไป

” ก็ได้~~ ” มาร์ลายิ้ม

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

ณ เวลาเช้าอีกวัน

” ตื่นได้แล้วว้อยยยยยยย จิม ” ผมรู้สึกถึงเสียงที่ตะโกนข้างๆหูผมได้เลย หูจะแตกแล้วครับ!! ผมรู้เลยว่าถ้าไม่ตื่นจะโดนดี แต่ผมง่วงนิ

” จิมจ้ามีซ้อยด์ให้เลือก  A B C เลือกมา ” ง่า ต้องเลือกใชไหม ผมหลับตาแล้วคิด

” B แล้วกัน ” สักพักเธอก็หายไป ผมเลยคิดว่าเธอไม่ปลุก

” เอาน้ำแข็งไปกิน!! ” ตอนนี้ตัวผมเต็มไปด้วยน้ำแข็ง ใจร้ายยย เดี่ยวฟ้องแฟนเธอหรอก แง้

” ตื่นก็ได้ ” ผมลุกจากเตียงก็พบว่าวันนี้มาร์ลาแต่งตัวอย่าง…แมนมาก

” มองไร ” แน๊ะ เถื่อนอีกครับ เจ๊ สมแล้วที่ได้ตำแหน่งพรานสาวนำทางของพระราชามาร์คัส

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

เมื่อผมกับยัยเตี้ยไปถึงมหาลัยก้พบว่าข่านกับสป็อคไปนั่งรออยู่ที่โรงอาหารแล้ว ข่านมองมาร์ลาแล้วพูด

” เมื่อไรจะใส่กระโปรง ” รอชาติหน้าแล้วกันครับ เจ้าชายสโนว์

” เดี่ยวงานวันเสาร์ คุณก็ได้เห็นใส่ชุดกระโปรงแล้ว… ” อะไรวันเสาร์น่ะ!? ชิบหายงานวันเกิดแคโรลลลลล วันนี้ต้องไปรับชุดนิน้าา และเมื่อถึงเวลาเย็นเราทั้งสี่ก็รีบวิ่งไปที่ร้านขายเสื้อ ยังดีที่เจ้าของร้านจำได้เราได้

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

ผมวางเสื้อที่จะใส่ไปในงานบนเตียงและมองกล่องของขวัญที่วางอยู่ข้างๆ

” นี่จิม….ฉันถามเล่นๆน่ะ ” ผมมองหน้ายัยเตี้ยที่อยู่ตรงหน้า

” ถามมาเลย~ ”  คนตรงหน้ายิ้มเศร้าแล้วถาม

” หากฉันตายจะมีใครคิดถึงฉันไหม? ” ผมมองคนตรงหน้า มิน่าล่ะช่วงนี้ถึงดูเครียด ผมจะตอบยังไงเนี่ย

” ก็ตรูไงว่ะยัยเตี้ย หากเธอตายไป ใครจะปลูกตรูไปมหาลัยล่ะ อีกอย่างเธอยังมี….. ” เธอขมวดคิ้ว

” ข่าน… ”

TBC.

[Spirk Fic] Once Upon A Dream (5)

Pairing : Prince!Spock /SleepyPrince!James T. Kirk

Type: AU Fanfiction

*แฟนฟิคนี้แต่งเพื่อความบังเทิงของเจ้าของบล็อกเท่านนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับภาพยนต์ บุคลจริง เหตุการณ์จริง สถานที่ใดๆทั้งสิ้น

***************************************************************
Chapter 5

ผมกับสป็อคเดินตามหลังไพร์ค เขานำดึงคันโยกบางอย่าง ตรงพื้นได้ยุบจนเผยให้เห็นบันได ไพร์คนำเราลงไปจนไปถึงห้องบางอย่าง เขาได้หยิบยาบางอย่างมาให้พวกเรา มันเป็นขวดแก้วใสที่มีน้ำสีเลือดหมู ผมกับสป็อครับมา แล้วมองขวดในมือ เรายังลังเลว่าจะดื่มมันดีไหม

” มันไม่ใช่ยาพิษหรอก นั้นคือยาฟื้นความทรงจำพวกเจ้าต่างหาก ” ผมกับสป็อคมองหน้ากันสักพัก แล้วก็ดื่มยาในขวดไป สักพักผมก็รู้สึกถึงโลกตรงหน้าผมหมุน และแล้วผมก็วูบไป

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

หลังจากที่อีวิลคิงประกาศกร้าวในงานอภิเษกของผมกับสป็อค พ่อของผมได้เรียกไพร์ค ผู้เป็นพ่อมดคนสนิทมาปรึกษา แต่เขาบอกพ่อผมว่าคาถาที่อีวิลคิงที่จะร่ายใส่ผมกับสป็อคนั้นเป็นคาถามนต์ดำขั้นสูง เขาทำได้แค่ร่ายคาถาป้องกันความทรงจำเฉยๆ

” เจมส์ เจ้ามาทำอะไรตรงนี้ ” สป็อคยืนอยู่ข้างๆผม  ผมหัมมามองเขาแล้วโผกอดเขาอย่างแน่น เขาลูบหลังผม สักพักทหารก็วิ่งมาหาผม

” องค์ชายเจมส์ พระราชาอยากพบท่าน บอกว่ามีเรื่องด่วน ” ผมกับสป็อคได้ตรงดิ่งไปยังท้องพระโรงของพระราชวัง เมือผมไปถึงก็พบว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่บนพื้นและบนตักของเธอก็มีชายหนุ่มนอนอยู่ พ่อของผมถาม

” นางบอกว่าเจ้ารู้จักนาง ” ผมมองไปที่เธอ ผมจำเธอได้แล้ว!! เธอเป็นพรานสาวนำทางของพระราชามาร์คัสและผู้ชายที่นอนอยู่ตักคือองค์ชายข่าน ลูกเลี้ยงของพระราชามาร์คัส ผมตอบพ่อผมไป  เขามองมาที่ทั้งสอง

” ทหาร!! พาองค์ชายข่านและพรานมาร์ลาไปพักผ่อนสิ และตามหมอหลวงมาด้วย ” สักพักทั้งสองถูกนำไปที่ห้องบรรทม ร่างของข่านถูกวางบนเตียง  ผมกับสป็อคเดินเข้ามา

” ข้านึกว่าจะเป็นแค่เรื่่องเล่าเสียอีก เรื่องเจ้าชายที่มีผิวขาว ผมดำดุจปีกกา ดวงตาสีน้ำทะเล ” มาร์ลากุมมือเขา

” โธ่เอ้ย!! ข้านี้มันแย่จริงที่ปล่อยท่านไว้คนเดียว ท่านเลยโดนอีวิลคิงเล่นงาน ” ผมมองไปที่มาร์ลา  เธอร้องไห้  หมอหลวงเข้ามาดูข่านแล้วหันมาบอกมาร์ลา

”  องค์ชายข่านสิ้นพระชนม์แล้ว ข้าขอโทษที่ช่วยอะไรเจ้ามิได้ แม่นาง ” เธอซบข่านทันที  ไพร์คเดินเข้ามาในห้องแล้วมองที่ผมกับสป็อค แล้วเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

” ข่านนน!!! ท่านต้องฟื้นสิ อย่าตายน่ะ ” ผมเห็นเขาจับบ่าเธออย่างอ่อนโยน  ตอนนี้ข่านได้อยู่ในชุดเจ้าชายสีขาว ซึ่งพระราชพิธีฝังศพของเขาจะเริ่มพรุ่งนี้ ผมกับสป็อคเดินไปหามาร์ลาเพื่อจะแยกตัวเธอจากร่างที่นอน แต่ไพร์คห้ามพวกผม  ผม สป็อค และไพร์คออกจากห้อง ผมได้ถามไพร์คว่าทำไมต้องให้มาร์ลาอยู่ในห้องกับข่าน เขาทำได้แค่ยิ้ม ผมเลยเอะใจ ผมเลยเดินกลับที่ห้องนั้นก็พบ…..ไม่พูดดีกว่า  ผมพูดขึ้น

” เอ่อ ข้าคงไม่ได้รบกวนเวลาส่วนตัวพวกเจ้าใช่ไหม ” ทั้งคู่หันมามองผมด้วยใบหน้าที่เขินอาย  ข่านลุกจากเธอ แล้วหันมาดึงเธอให้ลุกจากเตียง สักพักทหารวิ่งมาหาผม

” พระราชามาร์คัสทรงยกทัพมาบุกอาณาจักรเราแล้วขอรับ ” ผมไปเอาดาบจากผนังแล้วอีกเล่มส่งให้ข่าน

” หวังว่าเจ้าคงใช้ดาบเป็นน่ะ  ”  เขาพยักหน้า  การต่อสู้ผ่านไปหลายเวลา ผมกับสป็อคโดนจับได้ เราทั้งสองโดนจับมาคุกเข่าต่อหน้าพระราชามาร์คัส

” แหม่ๆ สู้จนนาทีสุดท้ายเลยน่ะ น่าเสียดายที่…… องค์ชายเจมส์ ” ผมต้องตกใจ เพราะเห็นมีร่างที่ผมคุ้นนอนจมกองเลือด

” ท่านพ่อ!ท่านแม่! เจ้าฆ่าพวกท่าน ” คนตรงหน้าผมหัวเราะ เขาลุกขึ้น แล้วเดินมาหาผม

” ใช่….รู้มั้ยข้ามีนามอีกอย่างว่าอะไร ” ผมมองไปที่คนตรงหน้า สักพักผมได้ยินเสียงตะโกนขึ้น

” อีวิลคิงท่านตายซ่ะเถอะ!!! ” มาร์ลาพุ่งใส่อีกคน แต่มีทหารคนหนึ่งเอามีดแทงที่ท้องเธอ  ข่านเอามีดฟันที่ทหารคนนั้น  ร่างของเธออยู่ในอ้อมแขนอีกคน อีวิลคิงหัวเราะ เขาเริ่มร่ายคาถาบางอย่าง สักพักมีหมอกดำอยู่รอบตัวพวกเรา แล้วผมได้ยินคำพูดได้แค่ไม่มีกี่คำ แล้วพอตื่นมาอีกทีผมก็อยู่ในบ้านที่ไหนก้ไม่รู้  แต่ผมนึกออกแค่ว่ามาร์ลาเป็นเพื่อนบ้านผม

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

ผมและสป็อคอย่างหายใจอย่างหอบ  สิ่งที่เราเห็นมันคืออะไรกัน!?

” นั้นมันอะไร…. ” ไพร์คพูดขึ้น

” ความทรงจำในอดีตของเจ้าทั้งสอง ” ใช่แล้ว ผมเริ่มจำได้ลางๆแล้ว

 

TBC.

____________________________________________________________

–  ตอนนี้เป็นตอนที่ไพร์คคืนความทรงจำให้เคิร์กกับสป็อคเรื่องเลยดูสั้นๆไปหน่อยง่า

–  กราบเท้าขออภัยคนอ่านรัวๆ

 

[Spirk Fic] Once Upon A Dream (4)

Pairing : Prince!Spock /SleepyPrince!James T. Kirk

Type: AU Fanfiction

*แฟนฟิคนี้แต่งเพื่อความบังเทิงของเจ้าของบล็อกเท่านนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับภาพยนต์ บุคลจริง เหตุการณ์จริง สถานที่ใดๆทั้งสิ้น

***************************************************************
Chapter 4

ผมยังนั่งฟังไพร์คสอนไปเรื่อยๆ(ซะเมื่อไร) ผมแอบส่งไลน์ไปหายัยเตี้ยต่างหาก

JK : เป็นไงบ้างว่ะ

MMG : ก็ปวดเหมื่อยตามตัวอยู่อ่า

JK : /ส่งสติ๊กเกอร์ไป/

MMG : คุยกันแค่นี้น่ะ ต่อตอนเย็นแล้วกัน

” คุณเคิร์ก ช่วยตอบคำถามนี้หน่อยได้ไหม ” งานเข้าแล้วไงคร้าบบบ  ผมลุกขึ้น

” ช่วยบอกวรรณกรรมของเซกสเปียร์ที่คุณรู้จักมาหนึ่งเรื่องสิ ” เรื่องไรว๊า คิดเร็วสิเคิร์ก

” จิมๆ ” ผมหันไป สป็อคสไลด์กระดาษแผ่นเล็กๆให้ผม

‘ Rome and Juliet ‘

ผมมองกระดาษแผ่นที่สป็อคส่งมา ผมหลับตา แล้วพูดออกไป

” โรมิโอแอนด์จูเลียตครับ’จาร์ย ” ไพร์คยิ้ม

” ใช่นั้นเป็นอีกเรื่องที่เรารู้จักกันดี พวกเธอรู้ตอนจบกันดีใช่ไหม ” สักพักกริ่งเลิกเรียนก็ดังขึ้น ไพร์คพูดขึ้น

” เอาหล่ะ เลิกคลาสได้ ” ผมรีบสะพายเป้ แล้ววิ่งออกจากห้องทันที  จนผมไปชนแคโรลล้มไปกองกับพื้นเข้า

”  แคล ขอโทษ ไม่เป็นไรใช่ไหม ” ผมพยุงแคโรลจากพื้น เธอส่ายหน้า แล้วพูด

” ไม่เป็นไร จิม อ้าว!มาร์ลาหล่ะ ปกติมาด้วยกันนี่ ” ผมยิ้มแหยให้อีกคน

” คือ วันนี้เธอลาป่วยน่ะ ” สักพักสป็อคเดินมาหาผมกับแคโรล

” แคล วันนี้เธอเห็นจอห์นมั้ย ” จะว่าตั้งแต่เช้าผมก็ไม่เห็นจอห์นเลยนิ

” ทำไมหรอ อย่าบอกว่าน่ะว่าเขาก็ไม่มาน่ะ ” สป็อคพยักหน้า พลางกดโทรศัพท์โทรหาอีกคน

” โหล จอห์น แกอยู่ไหนว่ะ ” ผมกับแคโรลยืนกันเงียบๆ สักพักเขาก็สบถ

” แล้วทำไมแกไม่บอกว่าแกไปพยาบาลมาร์ลาห่ะ!! ” ห๊า จอห์นอยู่บ้านมาร์ลา ผมสะกิดสป็อค

” ฉันรู้บ้านมาร์ลาไปทางไหน ” และในสองชั่วโมงต่อมาผมกับสป็อคได้อยู่หน้าบ้านมาร์ลาแล้ว ผมทั้งเคาะประตูและกดกริ่ง

” ก๊อกๆ ยัยเตี้ย เรามาเยี่ยมแล้ว ”  สักพักมาร์ลาก็เดินมาเปิดประตู

” กดกริ่งก็พอน่ะว้อยย จอห์นหลับอยู่ ” เดี่ยวจอห์นหลับอยู่ มาร์ลาาาาาาาา เธอกับเขาไม่ได้เอากันใช่ไหม!? ผมอ้าปากพะงายๆ มาร์ลาถอนหายใจ

” ไม่ใช่อย่างที่แกคิด จิม เขานอนน้ำลายยืดตรงโซฟาโน้น ” ผมชะเง้อมอง เอ่อจริงด้วย หมอนั้นนอน้ำลายยืดอยู่  สป็อคเดินเข้ามาถีบคนที่นอนตรงโซฟาจนนอนไปกองกับพิ้น จอห์นร้องลั่น

” สป็อคคคคคคคคคคคคคคคค ถีบตรูหา!? ” เขากระโดดบีบคออีกคน มาร์ลาห้ามไว้

” หยุดทั้งคู่เลย!! ” ผมได้แต่มอง จนเวลาใกล้ค่ำผม จอห์น และสป็อค ก็ได้ออกจากบ้านมาร์ลาไป เพื่อจะได้ให้เธอพักผ่อนได้เต็มที่ สักพักผมได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

” เคิร์กครับ มาร์ลาหรอ มีอะไร ” ผมได้เสียงสั่นๆของเธอ แล้วเสียงกรีดร้องดังทะลุโทรศัพท์ ผมตกใจและพูดกับอีกคน

” มาร์ หาที่ซ่อนก่อน เดี๋ยวฉันไปหาเธอ ” ผมหันมาก็พบว่าจอห์นหายไป สป็อคพูด

” หลังจากที่เขาได้ยินเสียงกรี๊ดเพื่อนนายก็ไปทันที ” ผมรีบตามจอห์นไปทันที เมื่อผมไปถึงก็พบว่าประตูบ้านมาร์ลาพัง ผมเลยส่งข้อความหาเธอ

‘ อยู่ไหน ‘

‘ ซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้ากับจอห์นน่ะ ‘

ผมเลยย่องขึ้นบันไดไปก็พบว่าเจ้าสิ่งนั้นกำลังสู้อยู่กับใครบางคนอยู่ คนนั้นหันมาทางผม

” พาเพื่อนเธอออกไป ” ผมเลยวิ่งอ้อมไปทางด้านหลังคนนั้น ไปทางห้องนอนมาร์ลา ผมเจอตู้ที่มาร์ลากับจอห์นซ่อนอยู่

” จอห์น มาร์ลา!! ออกมาเร็ว ” จอห์นเปิดตู้มาพร้อมกับมาร์ลา เราทั้งสามวิ่งไปตามบันไดจนมาถึงนอกบ้าน สักพักเราได้ยินเสียงหน้าต่างแตก เจ้าเงาดำก็ออกมาทางหน้าต่างแล้วหายไป จอห์นล้มไปกองกับพื้น มาร์ลาร้อง

” จอห์น!!!! นายอย่าเพิ่งเป็นอะไรน่ะ ” สักพักคนในฮู้ดดำเดินมาทาเรา เขายื่นขวดยาให้มาร์ลา

” เอานี่ให้เพื่อนเธอกิน มันช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของเขาได้ ” แล้วเขาเตรียมเดินจากไป แต่มาร์ลาทักขึ้น

” เดี๋ยวคะ คุณช่วยบอกได้ไหมว่าคุณเป็นใคร ” เธอพูดกับคนในฮู้ดดำ พลางเทยาใส่ปากคนที่นอนอยู่ คนนั้นเปิดฮู้ดที่ปิดหน้ามา เราทั้งสามก็ต้องอึ้งเพราะคนนั้นคืออาจารย์ไพร์ค ผมพูดขึ้น

” นี่มันอะไรกันครับ’จาร์ย ” คนสูงวัยตรงหน้าพูดขึ้น

” ดูท่าปิดความจริงไม่อยู่แล้วสิน่ะ ” ผมมองคนตรงหน้า เขาดีดนิ้ว สักพักเราทั้งสาม(รวมสป็อค)ได้อยู่ที่หอสมุดของมหาลัย  เราทั้งสี่ได้แต่มองหน้ากัน  ไพร์คกวักมือให้เราสี่คนไปตรงหน้าสิ่งที่คล้ายกับกระจก

” พวกเธอสี่คนมองไปที่กระจกนี้สิ ” ผมต้องตกใจ เพราะเงาที่สะท้อนตัวผมนั้น เป็นผมอยู่  เพียงแต่ผมอยู่ในชุดเจ้าชาย สป็อคหันไปทางไพร์ค

” อาจารย์ครับนี่มันอะไรกันครับ ” ไพร์คดึงหนังสือเล่มหนามาเล่มหนึ่งมาวางบนโต๊ะ  มาร์ลามองหนังสือบนโต๊ะ

” อาจารย์คะ นี่มัน ” มีเสียงหนึ่งแทรกขึ้น

” ใช่แล้ว คุณมาร์ลา นั้นคือนิทาน Once Upon A Time ไม่สิ มันคือเรื่องราวตัวตนจริงๆของพวกเจ้าทั้งสี่ต่างหาก ” ผมหันไปก็พบผู้ชายคนหนึ่งนั่งตรงเก้าอี้นวม เขา….มีปีกด้วย

” ไง เจมส์ มาร์ลา สป็อค จอห์น อ่ะ!ลืมไปเจ้าไม่ได้ชื่อจอห์น  เจ้าชื่อข่านต่างหาก ” จอห์นมองคนที่นั่งอย่างงๆ คนตรงหน้าเอามือตบหัวตนเองเบาๆ

” ข้าลืมไปพวกเจ้าทั้งสี่ยังไม่ได้ปลดคาถาที่ปกป้องความทรงจำนิ ” ไพร์คเดินมาหาอีกคน

” สก็อตตี้ เจ้าเอาของมาหรือเปล่า? ” อ๋อ…คนที่นั่งเก้าอี้ชื่อสก็อตตี้นี่เอง เขาหยิบสร้อยมาให้มาร์ลา สร้อยในร้านที่ยัยเตี้ยเคยไปดูนิ หรือว่า…คนขายกับคนที่อยู่ตรงหน้าคือคนเดียวกัน!!

” เธอคงจำสร้อยเส้นนี่ได้น่ะ ” มาร์ลาจ้องสร้อยอยู่สักพัก แล้วส่ายหน้า

” คงต้องเวลาสักพัก หรือกว่าจะจำได้อีกทีก็ตอนถึงคืนบรรจบ ” ไพร์คพูด สก็อตตี้แย้ง

” กว่าจะถึงวันนั้นมาร์ลาดวงคงถึงฆาตก่อนพอดี ” ผมชะงัก นึกถึงคำของแม่หมอวันนั้นที่ทักว่าเพื่อนดวงใกล้ถึงฆาต สักพักผมได้ยิงเสียงผู้หญิงอีกคน

” สก็อตตี้ ท่านพูดให้เข้าหูพรานสาวมาร์ลาหน่อยสิ ” ไพร์คหันไปพูด

” อูฮูร่า เจ้าได้ข่าวเรื่่องเงามัจจุราชมั้ย ” เธอส่ายหน้าแล้วพูดต่อ

” ต้องรอข่าวจากสายเราน่ะ อ่่ะ…พูดถึงก็มาเลย ” มีเด็กรัสเซียกับอีกคนที่ดูเหมือนเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นกับฟิลิปปินส์เลยเดินเข้ามา

” ผมเจอบางอย่างในห้องกระจกของอีวิลคิงครับ ” ไพร์ครับมาดู แล้วถอนหายใจ เขาหันไปพูดกับสก้อตตี้และอูฮูร่า

” ท่าทางเราต้องรีบคืนความทรงจำให้พวกเขาสี่คนล่ะ เพราะคืนบรรจบดันไปตรงกับคืนพระจันทร์สีเลือดพอดี ” ผมงงไปหมดแล้วววววว มาร์ลาพูดขึ้น

” หมายความไงค่ะ ช่วยอธิบายหน่อย ” ไพร์คพูด

” เพราะอีวิลคิงเลือกเจ้าไปเป็นเครื่งสังเวยในคืนพระจันทร์สีเลือดน่ะสิ ” มาร์ลายืนอึ้งไปทันที  ไพร์คหันมาพูดกับผม

”  ก่อนอื่นต้องฟื้นความทรงจำของเคิร์กกับสป็อคก่อน ตามข้ามาสิ ”  ผมกับสป็อคตามไพร์คไป  ตอนนี้ผมต้องการรู้ว่า….เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้มันเป็นเรื่องจริงหรือโกหก

TBC.

[Spirk Fic] Once Upon A Dream (3)

Pairing : Prince!Spock /SleepyPrince!James T. Kirk

Type: AU Fanfiction

*แฟนฟิคนี้แต่งเพื่อความบังเทิงของเจ้าของบล็อกเท่านนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับภาพยนต์ บุคลจริง เหตุการณ์จริง สถานที่ใดๆทั้งสิ้น

***************************************************************
Chapter 3

ผมวิ่งเหยาะไปตามถนนในช่วงเช้ามืด โดยมีมาร์ลาวิ่งอยู่ข้างๆ เมื่อพวกเราวิ่งไปถึงสวนสาธารณะ พวกเรานั่งพักตรงม้านั่ง

” โอ๊ย ไม่เคยวิ่งได้ไกลขนาดนี้มาก่อนเล้ยยยย ” ผมบ่นกับคนข้างๆ รู้สึกว่ามาร์ลาจะดูชิวๆกับการวิ่งไกลๆ ลืมไป เธอชอบเล่นกีฬานี่หวาา

” เจมส์ มาร์ลา!! ” แคโรลวิ่งมาหาเรา ผมมองคนตรงหน้า ใช่ครับ แคโรล มาร์คัส ลูกสาวของผอ.มหาลัยเอนเตอร์ไพร์ซ เป็นดาวมหาลัยอีกด้วย

” แคล มีอะไรหรอ ” มาร์ลาถามขึ้น แคโรลยืนซองจดหมายมาให้คนละซอง เมื่อเราเปิดอ่านจึงรู้ว่ามันเขียนอะไร

” ฉันอยากให้พวกเธอไปให้ได้น่ะ คอนเซ็ปคือแต่งแนวแบบแฟนชี ”  มาร์ลาถามแคโรล

” ฉันแต่งเป็นแคตนิสได้ป่ะ แคล ” โห้ มาร์ลาจะแต่งเป็นแคตนิสจากฮังเกอร์เกมเลยหรอ โหดไปมั้ยคร้าาบบบ

” แต่งได้สิ ” แคโรลหันมาถามผม

” ก็น่าจะแต่งเป็นแนวเจ้าชาย ” แคโรลยิ้มแล้วเดินจากไป

” งานเริ่มวันเสาร์ ตั้งแต่หกโมงตรงน่ะ สถานที่คือคฤหาสน์ บาย ” เมื่อแคโรลเดินไปไกล ผมหันมาถามมาร์ลาเรื่องชุด

” ยัยเตี้ย เธอแต่งเป็นชุดไหนของแคตนิส ” เธอหันมา

” ชุดม็อกกิ้งเจย์น่ะ ” หมายถึงชุดที่มันดำ แล้วมีปีกใช่มั้ยยยย โหดไปมั้ง

” จิม วันนี้เราไปหาชุดกัน ” ยังไม่ทันหายเหนื่่อยเลยคร้าบบ  จะชวนไปซื้อของอีกแล้ว เคิร์กเมื่อยแล้วน้า

_____________________________________________________

อีวิลคิงนั่งตรงโต๊ะทำงาน เขามองกระจกบนโต๊ะ ใช่ เขาเริ่มแก่ตัวลง นั้นก็หมายความว่าคำสาปเริ่มอ่อนลงไปด้วย พ่อมดไพร์คปรากฏตัว

” แหม่ๆ ดูท่าว่าพระราชาอเล็กซานเดอร์ มาร์คัส จะกลัวความชราภาพน่ะเนี่ย ” อีวิลคิงลุกมาจากโต๊ะ แล้วจ้องอีกคน

” เจ้ามันไม่ต่างจากข้า ไอ้พ่อมด จะว่าไปก็แก่พอๆกับข้ามิใช่รึ ” ไพร์คยิ้ม

” แต่ว่าเวทย์ข้ายังแกร่ง ส่วนท่านน่ะอีวิลคิง ท่านน่ะเริ่มอ่อนลงทุกๆวัน ” อีวิลคิงกำมือแน่น เขาตวาด

” เจ้ากล้าดูถูกข้าเรอะ พ่อมด ” ไพร์คยังคงยิ้ม แถมพูดทิ้งท้าย ก่อนจะหายตัว

” คืนบรรจบใกล้เข้ามาแล้ว ” อีวิลคิงโกธรจนเลือดขึ้นหน้า เขาคว้ากระส่องทุ้มลงพื้น

” ข้า อีวิลคิง ข้าจะต้องอยู่ค้ำฟ้า ” เขาเปิดตำราอำนาจมืด แล้วเปิดไปเรื่อยๆ

” ข้าต้องแกร่งขึ้น อ่า เจอแล้ว ในคืนบรรจบ จะมีชื่อเรียกอีกอย่างว่าคืนพระจันทร์เลือด คืนนี้เหมาะกับการบูชายัญ เพื่อเพิ่มพลัง ข้าต้องใช้เลือดจากหญิงสาวพรหมจารีย์ ” เขาเดินไปที่กระจกวิเศษ

” กระจกวิเศษบอกข้าเถอะใครเหมาะจะเป็นเหยื่อสังเวยในพิธีนี้ ” กระจกวิเศษปรากฎภาพขึ้นเป็นมาร์ลา อีวิลคิงยิ้ม

” เจ้าพรานสาวทรยศนี้เองที่เหมาะกับการสังเวย ” เขาร่ายคาถาบางอย่างเป็นเงาดำปรากฎขึ้น

” ไปจับตัวพรานสาวมาร์ลามาให้ข้าแบบเป็นๆ ใครขวางฆ่าทิ้ง ” เงาดำหายไปทางหน้าต่าง

_____________________________________________________________
ผมลองชุดมาหลายชุดแล้ว แต่ก็ยังไม่มีชุดไหนที่ดูเป็นเจ้าชายเลย แต่ต่างจากมาร์ลาที่หาชุดม็อกกิ้งเจย์ได้แล้ว

” ชุดนี่จะเข้ากับคุณ ถ้ามัดผมแบบมวยข้าง แล้วปล่อยปอยผมมาหน่อยหนึ่งคะ ” เจ้าของร้านเสื้อพูดกับเพื่อนผม แล้วกรุณามาช่วยเลือกให้ผมทีคร้าบ

” คุณเจ้าของร้านคะ ช่วยเลือกเสื้อให้เพื่อนฉันได้ไหมค่ะ คือเขาจะแต่งเป็นเจ้าชาย” ขอกอดเธอทีหนึ่งมาร์ลา และเจ้าของร้านหายไปแว็บหนึ่ง แล้วกลับมาพร้อมชุดเจ้าชายสีเหลืองทอง นี่สิ คุณค่าที่เคิร์กคู่ควร ผมลองชุด

” มาร์ ฉันดูเป็นไง ” เธอมองผมแล้วตอบ

” เพอร์เฟ็คมากกกก ” สักพักมีคนเข้าร้านใหม่

” มาร์ เธอเองหรอ แต่งชุดม็อกกิ้งเจย์เหรอ สวยดี ” จอห์นคุยกับมาร์ลา สป็อคเดินมาหาผม

” คุณคงดูดี เตรียมหาชุดไปงานวันเกิดแคโรลใช่ไหม ” เอ๋ สป็อครู้ได้ไง ผมเลยถามเข้าไป

” รู้ได้ไง ” เขาแกว่งจดหมายเชิญตรงหน้าผม

” ฉันกับจอห์นก็ได้เชิญเหมือนกัน ก็เลยมาหาชุดกัน จอห์น นายจะแต่งเป็นไร ” อีกคนหันมาตอบ

” เชอร์ล็อค โฮล์มน่ะ แฟนซีดี ” เขาตะโกนตอบ

” เชอร์ล็อคแฟนซี แฟนซีมากกก ” จอห์นตอบสป็อคแบบกวนๆ

” ก็ไม่รู้สิน่ะ~ ” มาร์ลาแอบขำ จากนั้นเธอก็เดินไปจ่ายตังค์ค่าชุดเธอและผม

” จอห์น สป็อค เราขอตัวกลับก่อนน่ะ ” ผมโบกมือลาทั้งสองคน ระหว่างที่เราเดินกลับบ้าน มาร์ลาพูดลอยๆ

” จะว่าจอห์นก็หล่อดีน่ะ ” อ่ะจ้ะ ก็เขามันหล่อราวกับเทพบุตร ต่างจากผมที่หล่อแนวเพย์บอยชิ สักพักเพื่อนผมก็โดนอะไรกระชากขึ้นอากาศ เธอดิ้นพลาก

” จิม!! ช่วยฉันด้วย!! ” ผมพยายามจะดึงเธอลงมา แต่มีอะไรบางอย่างมาผลักผมให้กระเด็นไป ร่างของผมกระแทกกับต้นไม้ข้างๆ แล้วมีแสงบางอย่างพุ่งมาหาเงาดำนั้น ร่างของมาร์ลาหล่นมากระแทกพื้นหญ้า ผมรีบไปดูเธอทันที

” มาร์ลา เธอเป็นไรไหม ” เธอเลือดออกจากต้นแขน ผมถอดเสื้อนอกมาห้ามแผลเธอไว้ สักพักเงาดำนั้นก็พุ่งมาหาเรา แต่มันชะงักเพราะมีคนยืนขวางไว้

” อย่าทำพวกเขา… ” เสียงนั้นพูด เงาดำนั้นค่อยๆหายไป

” ขอบคุณครับที่ช่วยเรา อ่ะ…. ” เขาเดินมาแตะที่หน้าผากผมกับยัยเตี้ย จากนั้นก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย และในเช้าวันอีกวันผมก็ตื่นมาพบว่าผมอยู่ที่บ้านเป็นที่เรียบร้อย ผมรีบอาบน้ำไปมหาลัยทันที เพราะมีแค่ผมกับมาร์ลาที่อยู่ด้วยกันในเหตุการณ์เมื่อวันก่อน ผมเลยเป็นห่วงเธอ แต่เมื่อไปถึงคลาสผมกลับไม่พบเธอ แต่แล้วอาจาร์ยไพร์คบอกว่ามาร์ลาขอลาป่วย ผมนั่งเงียบ พลางขอบคุณคนเมื่อคืนที่ช่วยผมกับมาร์ลาให้รอดปลอดภัยไว้จากเจ้าสิ่งนั้น
_____________________________________
เหตุการณ์เมื่อคืนวาน
” ไพร์ค ท่านจะไม่บอกพวกเขาเลยหรอ ” อูฮูร่าพูดกับไพร์ค พลางเทยาใส่ปากหญิงสาวที่สลบและบาดเจ็บ

” มันยังไม่ถึงเวลา แต่อีวิลคิงมีแผนร้ายแน่ถึงได้ส่งเงามัจจุราชมาจับตัวมาร์ลา ” สก็อตตี้มองเคิร์กที่นอนสลบ บาดแผลเขาถูกรักษาเป็นที่เรีบยร้อย

” ยังดีที่บาดเจ็บเล็กน้อยน่ะครับ ” เขาพูด ไพร์คหันมาบอกซูลูและเซคอฟ

” ต่อไปนี้พวกเจ้าสองคนมีหน้าที่อารักขา พรานมาร์ลา แต่อย่าให้เธอรู้ตัวว่ามีคนตามอารักขาอยู่ ” ซูลูและเซคอฟพยักกน้า

TBC.

[Spirk Fic] Once Upon A Dream (2)

Pairing : Prince!Spock /SleepyPrince!James T. Kirk

Type: AU Fanfiction

*แฟนฟิคนี้แต่งเพื่อความบังเทิงของเจ้าของบล็อกเท่านนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับภาพยนต์ บุคลจริง เหตุการณ์จริง สถานที่ใดๆทั้งสิ้น

***************************************************************
Chapter 2

เมื่อนานมาแล้ว

” เมื่อองค์ชายอายุยี่สิบห้าชันษา เขาจะโดนเครื่องปั่นฝ้ายตำนิ้วแล้วตาย!! ” อีวีลคิงหัวเราะอย่างชั่วร้าย  แม่ของผมได้แต่กอดผมไว้

” ไม่น่ะ!! ” ไพร์คเดินมาหาผม เขาร่ายคาถาอะไรบางอย่างกับผม แล้วเดินไปหาอีวิลคิง พวกเขาทั้งสองเผชิญหน้ากัน ไพร์คพูดขึ้น

” ฉันเปลี่ยนให้เขาหลับใหล เขาจะฟื้นได้ด้วยจุมพิตจากรักแท้ ” อีวิลคิงกระตุกยิ้ม แล้วพูด

” ชักอยากรู้แล้วว่าใครจะถอนคำสาปให้องค์ชายได้กัน ฮ่าๆ ” เขาหันมาจูงแคโรล ราชธิดาโดยชอบธรรมของเขา

” กลับกัน แคล ”  เขาดีดนิ้ว และหายไปทั้งคู่ หลายปีผ่านไปผมอายุได้ยี่สิบห้าปี พ่อกับแม่ผมเริ่มกังวลขึ้นเรื่อยๆ ใช่วันนี้คำสาปจะเริ่มขึ้น แต่ผมก็ไม่สน ตรงกันข้ามผมไม่เชื่อด้วยซ้ำ แต่ทว่ามันก็เกิดจนได้  ใช่ ด้วยความไม่รู้ของผม ผมเดินไปที่หอคอย แล้วไปเจอลุงแก่กำลังขนเครื่องปั่นฝ้าย ผมเลยไปช่วย  ทันทีมือผมไปแตะเข็ม ลุงแก่คนนั้นก็คือร่างเดิม เขาคืออีวิลคิง!! ผมแทบไม่รู้สึกตัวเลยหลังจากนั้น แต่ทว่ามีคนปลุกผมจากคำสาป ใช่ครับ ไพร์คบอกว่าคำสาปนี้จะถอนได้เมื่อผมได้จุมพิตจากรักแท้  เขาคืสป็อค เจ้าชายจากเมืองวัลแคน คืนนั้นหลังจากที่พ่อและแม่ของผมได้จัดงานฉลองกัน ฝันร้ายได้มาเยือนเราอีกครั้ง

” อีวิลคิง เจ้ามาทำไม!? ” พ่อผมถาม อีวิลหันมามองที่พ่อผม เขาหัวเราะ

” แหม่ ข้าจะมางานอภิเษกสมรสขององค์ชายไม่ได้หรือไง สหายเก่าข้า ”  เขาหันมามองที่ผมกับสป็อค

” แค่จะประกาศอะไรบ้างอย่างน่ะ ” พ่อของผมจ้อง

” องค์ชายจงฟังให้ดี  จงมีความสุขให้มาก เพราะเที่ยงคืนนี้พวกแกทั้งสองจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ” จากนั้นเขาเดินออกจากโถงไป  ใช่ครับ เรื่องทั้งหมดเป็นเหตุการ์ณก่อนที่ผมกับสป้อคจะโดนพรากจากกัน แต่ยังดีที่ไพร์คร่ายอะไรบางอย่างไว้ปกป้องความทรงจำผมบางส่วนไว้ เขาบอกว่าถ้าผมและเขาได้เจอกันอีกครั้ง คำสาปของอีวิลคิงจะมลายหายไป

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

ณ ปัจจุบัน

ผมกลับมาที่บ้านในเวลาเกือบสี่ทุ่ม เพราะยัยเตี้ยนั้นแท้ๆที่ไม่ตอบคำชวนของโบนส์ ผมเลยต้องไปกับมันแทน ฮึ่ม พรุ่งนี้เจอกันเมื่อผมจะด่าเละเลย เมื่อผมอาบน้ำเสร็จ ผมก็เปิดคอมเพื่อเช็คเฟส อ้าว มาร์ลาออนอยู่ เสร็จผมหล่ะ ผมทักแชทเธอ

JK : ยัยเตี้ยยังไม่นอนอีกน่ะ

MMG : ตามมาแขวะถึงเฟสเลยน่ะ _ิ๋ม

๋JK : ก็เธอทำให้ฉันต้องไปดูหนังกับโบนส์ กว่าจะบ้านได้ มันดึกมากรู้ป่ะ

MMG : นายโกธรฉันใช่มั้ย งั้นพรุ่งนี้ฉันเลี้ยงสเวนเซ่นนาย มาเจอที่หน้าห้างตอนแปดโมง ห้ามสาย

จากนั้นเธอก็ออฟไลน์ แหม่คุยเร็ว ไปเร็วน่ะครับช่างเถอะ อย่างน้อยมาร์ลาก็เลี้ยงสเวนเซ่นฟรีแล้วกัน ผมต้องตื่นเช้า งั้นขอนอนแล้วกัน

______________________________________________

Spock P.O.V

ผมนั่งจ่อหน้าคอม เพราะจะเอารูปลงเครื่อง ผมนั่งลบรูปบางรูปที่ไม่ชัดออก จนมาถึงรูปที่มีจิม ให้ตายสิ ทำไมตอนเขายิ้มมันดูน่ารักอย่างนี้  ผมจ้องรอยยิ้มอยู่นานมาก จนจอห์นมาสะกิดผม จะว่าไปจอห์นก็เป็นเหมือนพี่น้องผม ผมมักจะคอยปรามไม่ให้เขาทำอะไรที่มันไม่ดี จนคนในมหาลัยแซวว่าเป็นพี่น้องกัน แต่มันไม่ใช่ ถึงผมกับจอห์นจะมีอะไรเหมือนกัน ทั้งสีผม ส่วนสูงที่ไล่เลี่ยกัน นิสัยบางอย่าง แต่จอห์นต่างจากผมที่….เขามีเสน่ห์แรงมาก เขามีทั้งรุ่นน้อง รุ่นพี่ ตามจีบอยู่ตลอด แต่เขาก็ไม่สน ผมยังเคยแอบคิดว่าเขาเป็นเกย์ แต่ผมคิดผิด เพราะผมเคยแอบดูสมุดวาดรูปเขา เขาวาดผู้หญิงคนหนึ่ง เธอใส่ชุดแบบนายพรานยุคกลาง แต่ยังมีเค้าโครงของเป็นความผู้หญิงอยู่ เขาเคยบอกว่าฝันถึงเธอมาหลายครั้งแล้ว

” เฮ้ย สป็อค แกจะจ้องคอมจนตาจะหลุดจากเบ้าแล้ว ” ผมหันไป ก็พบว่าจอห์นยืนหาวอยู่

” แหม่ที่นายน่ะ นั่งวาดรูปนางในฝันอยู่ถึงตีห้า ” เขาว้ากใส่

” อ๊ากกกกก สป็อคคคคคคคคค ” ผมหัวเราะ

” งั้นมาร์ลาผมขอ ” จอห์นกระโดดมาบีบคอผม แหม่ ผมแค่ลองใจเฉยๆ

” มาร์ลา ฉันจองว้อยยย ” ผมรีบพูด

” ฉันแค่ล้อเล่นจอห์น ” เขาผละออก แล้วพูดสบถ

” ใจหายหมดเลยวุ้ยยย ”

____________________________________________________________

ณ เวลาเช้าของเคิร์ก

ผมวิ่งมารอมาร์ลาที่ห้าง ยะฮู้~~ผมมาถึงก่อนยัยเตี้ยซะอีก มาร์ลาเดินมาหาผม

” แหม่ ไอ้จิม พอบอกว่าเลี้ยง มึงมาไวเลย ” แหม่ ของฟรีหนิ ผมต้องมาเช้าอยู่แล้ว อิๆ

” แต่ร้านมันยังไม่เปิด เราไปร้านหนังสือก่อนป่ะ ” เธอชวน แต่ผมตอบไป

” มาร์ ทำไมไม่ไปดูร้านนั้นอ่า ” ผมชี้ร้านหนึ่งที่อยู่ตรงหัวมุม ผมไม่รุ้หรอกว่าเป็นร้านอะไร แต่อย่างน้อยยังดีว่าไปร้านหนังสือแล้วกัน

” ก็ได้ ” เธอเดินนำ เมื่อเราเข้าไปถึงร้านก็พบว่าในร้านนี้มีของแปลกๆขาย ดูเหมือนว่ามาร์ลายืนจ้องสร้อยเส้นหนึ่ง ผมเลยไปดูส่วนอื่นๆของร้าน สักพักคนขายเข้ามาทักพวกผม เขาพูดเสียงสำเนียงสก็อต

” เชิญดูได้เลย ” ผมเลยดูไปเรื่อย จนไปชนกับคนอื่นเขา

” ขอโทษครับ อ้าว..อาจารย์ไพร์ค ” ที่แท้คนที่ผมไปชนคืออาจารย์ไพร์คนี่เอง

” อ้าว พวกเธอ คุณแม็คกิ๊ฟเวอร์ คุณคงดีขึ้นแล้วสิน่ะ ” เธอยิ้มแหยให้อีกคน แล้วพูดขึ้น

” จิมไปกัน เดี่ยวต้องต่อคิวกันอีก ” ใช่ครับ ผมเกือบลืมเลยว่ามาร์ลานัดผมมาเพื่ออะไร

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

” สมน้ำหน้า แย่งตรูกินเยอะเลยน่ะ จิม ” ยัยเตี้ยพูดเย้ยผม เพราะผมแย่งเธอกินหมด ตอนนี้เลยจุก

” ง่า ของฟรีนิ ก็เลยต้องกินให้คุ้มอ่า ” เธอหันมา แล้วยิ้มโฉดให้ผม

” คราวหน้า….เลี้ยงตรูหล่ะ ” เฮร้ยยยยย ผมแทบกระเป๋าแห้งแล้วน้าาาา

________________________________________________

ไพร์คยังคงอยู่ที่ร้านเหมือนเดิม เขามองที่คนขายแล้วยิ้ม

” สก็อตตี้ คืนร่างเดิมเจ้าได้แล้ว ” สก็อตตี้ดีดนิ้ว เขาคืนร่างเดิม

” มาร์ลาโตขึ้นเยอะเลย องค์ชายเคิร์กด้วย ” ไพร์คยิ้มบางแล้วพูดต่อ

” ของหล่ะ ” สก็อตตี้มองหน้าอีกคนอย่างเข้าใจ เขาหายไปที่หลังร้านแล้วยิบห่อบางอย่าง เป็นผ้าคลุมไหล่ขององค์ชายข่าน ไพร์คเปิดห่อดู มันเป็นดาบเงินของมาร์ลาที่ยังคงสภาพดีอยู่ เขาหยิบมาดูช้าๆ

” ดาบยังคงสภาพเดิม ” สก็อตตี้ถาม

” ทำไมมาร์ลาถึงเป็นต้องคนฆ่าอีวิลคิงหล่ะ ท่านพ่อมด ” ไพร์คหันมา แล้วพูด

” เรื่องบางเรื่องข้าก็อธิบายยากน่ะ สก็อตตี้ ”

________________________________________________

อีวิลคิงมองกระจกแล้วถาม

” กระจกวิเศษเอ๋ย…จงบอกข้าเถอะ ใครคือกษัตริย์ที่คู่ควรกับบัลลังค์ของอาณาสตาร์ฟลีท ” กระจกพูด

”  จะข้าตอบตามตรง หรืออ้อมหล่ะท่าน ” อีวิลคิงตวาด

” ตอบข้ามาเลยว่าใคร!!? ” กระจกพูด

” เจ้าชายข่านไงท่าน ” เขาจ้องกระจกแล้วตวาด

” ไม่จริง!! ” กระจกพูด

” ถึงท่านจะทรงอำนาจเพียงใด แต่ท่านอย่าลืมคำทำนายสิ…. ” อีวิลคิงเดินไปที่กระจกแล้วพูด

” คำนายนั้นเรอะ ราชันย์ร้ายจะสิ้นชีพด้วยคมดาบของนายพรานสาว ข้าขอบอกเลยว่าไม่มีทาง!! ข้าต้องอยู่ค้ำฟ้า ” สักพักเขาได้ยินเสียงบางอย่าง

” พ่อคะ อาทิตย์หน้าวันเกิดลูกน่ะ ลูกจะจัดที่ไหนดี ” อีวิลคิงยิ้ม

” จริงสิ อาทิตย์หน้าวันราชสมภพธิดาข้านิ  งั้นข้าเปลี่ยนแผนแล้วกัน… ” เขาตะโกนตอบ

” จัดที่คฤหาสน์เราแล้วกันน่ะ แคล ” เขานั่งเก้าอี้แล้วยิ้มร้าย

” คืนนั้นจะเป็นจุดจบของสี่คนนั้น ฮ่าๆ ”

TBC.

______________________________________

เอาใจช่วยกันว่าสี่คนนี้จะรอดจากแผนร้ายของอีวิลคิงได้มั้ย